เทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง (端午节) มีชื่อเรียกที่คุ้นหูอีกหลายชื่อ เช่น เทศกาลเรืองมังกร เทศกาลตวนหยาง เทศกาลเดือนห้า เทศกาลเทียนจง ฯลฯ จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 5 เดือน 5 ตามปฏิทินจันทรคติ (农历) โดยจะมีพิธีบูชาเทพเจ้าและบรรพบุรษ เพื่ออธิษฐานขอพรและปัดเป่าวิญญาณชั่วร้าย โดยจะมีการเฉลิมฉลองในเทศกาลนี้ด้วย(ในภาษาจีนโบราณ... คำว่า “端” หมายถึง จุดเริ่มต้น ดังนั้นจึงมีชื่อเรียกอื่นว่า 端五，端阳 คือการเริ่มต้นของเดือน 5 นั่นเอง)มีตำนานเล่าว่า... ในยุคสงครามรณรัฐ หรือยุคจ้านกั๋ว มีเสนาบดีทั้งยังเป็นกวีเอกแห่งรัฐฉู่นามว่า “ชวีหยวน (屈原)” เขาเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความรักชาติและได้เสนอนโยบายต่างๆที่มีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองมากมาย ต่อมาถูกใส่ความให้ร้ายโดยเหล่าขุนนางกังฉิน จึงถูกเนรเทศไปยังดินแดนเหนือแม่น้ำฮั่น ที่นี่เองที่เขาได้ประพันธ์บทกวี​ “หลี่เซา”

“เขาง้อไบ๊” ชื่อนี้คงคุ้นหูใครหลายๆ คน เพราะเป็นชื่อของสำนักนางชีที่มีชื่อเสียงด้านกำลังภายใน ซึ่งปรากฏอยู่ในนิยายชื่อดังเรื่อง “มังกรหยก” ภูเขาแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีอยู่จริง ในภาษาจีนกลางเรียกว่า “เอ๋อเหมยซาน” (Mount Emei) ตั้งอยู่ในมณฑลเสฉวน ห่างจากเมืองเฉิงตูราว 160 กิโลเมตร มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,077 เมตร มีรูปร่างลักษณะคล้ายคิ้ว เขาง้อไบ๊แห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในสี่ขุนเขาใหญ่ที่เป็นรากฐานความเชื่อทางพุทธศาสนาในประเทศจีน และเมื่อปีค.ศ. 1996 เขาง้อไบ๊ก็ได้รับการจัดให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมชื่อ “ง้อไบ๊” มาจากชื่อของแมลงในสมัยโบราณชนิดหนึ่ง บนเขาแห่งนี้ยังคงสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์โดยมีพื้นที่ป่าไม้ปกคลุมอยู่ถึง 87% ของพื้นที่ และเป็นบ้านของสัตว์ป่ามากกว่า 2,000 ชนิด นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นแหล่งปลูกชาที่ขึ้นชื่อของประเทศอีกด้วย ที่เขาง้อไบ๊อุณหภูมิจะมีความแตกต่างกันมาก จนมีคำเรียกว่า “ภูเขา 4 ฤดู

ทะเลสาบคานาสือ เป็นทะเลสาบน้ำจืดในเทือกเขาอัลไต ซึ่งอยู่ตอนเหนือสุดของเขตปกครองตัวเองซินเจียงอุยกูร์ ทะเลสาปคานาสืออยู่ระหว่างชายแดนประเทศจีนและประเทศคาซัคสถานค่ะ ซึ่งที่ทะเลสาบคานาสือกินพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2,000 กิโลเมตร สำหรับชื่อของทะเลสาบคานาสสือมาจากคำว่า คานาสในภาษามองโกล แปลว่าทะเลสาบกลางหุบเขา ดังนั้น คานาสือ จึงเป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมาก ถ้าใครชอบเที่ยวสายธรรมชาติ ห้ามพลาดนะคะ 5 เหตุผลที่ต้องไปคานาสือ ‹ 1. มาพิสูจน์เรื่องเล่าของสัตว์ปริศนา ›หลายๆ คนคงเคยได้ยินเรื่องเล่าของสัตว์ปริศนาต่างๆไม่ว่าจะเป็นเจ้าตัวล๊อคเนส ที่ทะเลสาบเนสส์ ที่ทะเลสาบคานาสือก็มีเรื่องเล่าของสัตว์ปริศนาด้วยเช่นกันค่ะ โดยชาวบ้านบอกว่าเป็นสัตว์ปริศนาตัวสีแดงๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในทะเลสาปแห่งนี้ ประกอบกับนักวิทยาศาสตร์ได้พบกับโครงกระดูกของสัตว์ต่างๆที่ทะเลสาปแห่งนี้ จึงเกิดเป็นภารกิจในการตามหาเจ้าสัตว์ปริศนาสีแดงในทะเลสาปแห่งนี้ แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็สันนิษฐานว่าเป็นปลาไทแมน ซึ่งเป็นปลาในตระกูลปลาแซลม่อนที่มีขนาดใหญ่ หากพวกมันโตเต็มที่อาจจะมีความยาวถึง 10-15 เมตร‹ 2. วิวสวยมากกกก ›ทะเลสาปที่เมืองจีนขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามอยู่แล้วค่ะ แต่ที่ทะเลสาบคานาสือบรรยากาศและความสวยงามจะเปลี่ยนไปตามฤดูเลยนะ

เมืองเฉาโจว (Chaozhou) หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อแต้จิ๋ว ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของมณฑลกวางตุ้ง ใกล้กับเมืองซัวเถา (Shantou) ที่นี่เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี และเป็นต้นกำเนิดพิธีการชงชาจีนแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า กงฟูฉา (工夫茶) ทำให้แต้จิ๋วกลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรม โบราณสถาน อาหาร และสถานที่แห่งความทรงจำของบรรพบุรุษไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋วเป็นบ้านเกิดของบรรพบุรุษชาวจีนโพ้นทะเลมากกว่า 30 ล้านคนทั่วโลก โดยหนึ่งในสามนั้นได้เข้ามาอาศัยอยู่ในไทย ทำให้หลายสถานที่ในแต้จิ๋วเข้ามาอยู่ในความทรงจำของชาวไทยเชื้อสายจีน อย่างสะพานกว่างจี้ (Guangji Bridge) สัญลักษณ์ประจำเมืองแต้จิ๋วที่สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960–1279) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสะพานแห่งความทรงจำของบรรพบุรุษคนไทยเชื้อสายจีน และวิหารไทย (Taifo Hall – 泰佛殿) ของวัดไคหยวน หรือ วัดไคง้วน วัดพุทธนิกายมหายานโบราณ ที่สร้างขึ้นเพื่อฉลองความสัมพันธ์ที่ยาวนานหลายศตวรรษของไทยกับแต้จิ๋ว วันนี้เราจะมาแนะนำอีก 5

เมืองตุนหวง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกของจีน เป็นเมืองวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของจีน ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญจากจีนไปยังเขตซีอวี้ เอเชียกลางและยุโรป และเคยเป็นชุมทางการค้าที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต ตุนหวง ในฐานะเป็นมรดกวัฒนธรรมที่ล้ำค่าแห่งหนึ่งในโลกของจีน ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักสำคัญแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายไหม ยังเป็นแหล่งบรรจบที่มีความสำคัญของอารยธรรมจีนกับอารยธรรมตะวันตก ตุนหวงลือชื่อในด้านถ้ำหินตุนหวงกับงานจิตรกรรมผนังถ้ำตุนหวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของมรดกโลก เช่น ถ้ำมั่วเกาคู ด่านอวี้เหมินกวน และด่านหยังกวนของกำแพงเมืองจีนในสมัยราชวงศ์ฮั่น สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองตุนหวง ถ้ำมั่วเกา สร้างขึ้นในสมัย “เฉียนฉินแห่งสิบหกประเทศ – 前秦十六国” ราวๆ ค.ศ.300-400 และได้ผ่านมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุค 16 ประเทศ (ช่วงสามก๊กตอนปลาย) , เป่ยเฉา, สุ่ย, ถัง, ห้าราชวงศ์, ซีเซี่ย, หยวน (มองโกล) ได้มีการก่อสร้าง และ

เที่ยวจีนตลอด 12 เดือน แต่ละเดือนไปที่ไหนดี 1.เมืองเสียนหยาง มหานครโบราณของจีน เมืองเสียนหยาง มหานครโบราณของประเทศจีน ตั้งอยู่บริเวณมณฑลฉ่านซี ใกล้กับเมืองซีอาน ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่เมืองหลวงสำคัญของจีน ทำให้ภูมิศาสตร์อยู่ใกล้เคียงกัน เป็นพื้นที่ไม่มีทางออกทะเล มี ราชวงศ์ที่ปกครองเมืองนี้อยู่ 2 รัชกาล คือ จิ๋นซีฮ่องเต้ กับพระโอรส อย่างจิ๋นเออชือ รวมที่เมืองเสียนหยางเป็นเมืองหลวงเวลาทั้งหมด 15 ปี ทั้งนี้เมืองเสียนหยางยังพบหุ่นทหารดินเผาของจิ๋นซีฮ่องเต้อีกด้วย 2.เมืองฉางอัน เมืองหลวงราชวงศ์ฮั่น หลังจากที่เมืองเสียนหยางถูกทำลายลงไป ต่อมาจักรพรรดิฮั่นเกาจู่ ได้สถาปนาเมืองฉานอันขึ้นเป็นเมืองหลวงของจีน โดยในปัจจุบันเมืองฉานอันถูกเรียกว่าเมืองชีอานนั้นเอง ฉางอันแปลว่าสันติภาพที่ยืนยาว เมืองที่รุ่งเรือง ตำแหน่งที่ตั้งจะอยู่ใกล้กับเมืองเสียนหยาง มีตำนักที่ชื่อว่าเวยหยางกง โดยเมืองฉานอันเป็นเมืองหลวงอยู่ที่ 245

เที่ยวจีนตลอด 12 เดือน แต่ละเดือนไปที่ไหนดี เที่ยวจีนเดือนมกราคม - เทศกาลแกะสลักน้ำแข็งฮาร์บิ้น เมืองฮาร์บินในฤดูหนาวได้ชื่อว่า “เมืองแห่งน้ำแข็ง” เทศกาลน้ำแข็งหิมะที่จัดขึ้นปีละครั้งได้พัฒนาขึ้นเป็นเทศกาลน้ำแข็งและหิมะนานาชาติที่ผสมผสานวัฒนธรรมกีฬา ศิลปะ เศรษฐกิจการค้า ;วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการท่องเที่ยวเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน เทศกาลน้ำแข็งและหิมะนานาชาติฮาร์บินของจีน เทศกาลรื่นเริงฤดูหนาวของแคนาดา เทศกาลหิมะซัปโปโรของญี่ปุ่นและเทศกาลสกีของนอร์เวย์รวมเรียกว่า 4 เทศกาลน้ำแข็งและหิมะที่ยิ่งใหญ่ของโลก ภูเขาหิมะแห่งเมืองคุนหมิง สถานที่เที่ยวแห่งใหม่ของมณฑลยูนนาน ที่กำลังท้าทายการเดินทางอย่างยิ่ง ภูเขาหิมะเจี้ยวจื่อ ภูเขาหิมะนี้มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 4,223 เมตร ต้องนั่งรถอุทยานแล้วต่อด้วยนั่งกระเช้าขึ้นไป ความสูงมากทำให้มีอากาศบนเขาเบาบาง ยิ่งในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่ปลายพฤศจิกายน -ธันวาคม และช่วงมกราคม ของทุกปี เป็นช่วงที่เริ่มมีหิมะตกมาก ครอบคลุมพื้นที่ภูเขาเจี้ยวจื่อแห่งนี้ นับเป็นภูเขาหิมะที่ใกล้กรุงเทพและประเทศไทยมากที่สุด เที่ยวจีนเดือนกุมภาพันธ์ -

Nihao China มาแนะนำอีกเทศกาลดอกไม้ของเมืองจีน คือ เทศกาลชมดอกแจ็คกาแรนด้า (Jacarandas in Bloom) ในภาษาจีนเรียกว่า "หลันฮวาหยิ๋ง (蓝花楹) หรือ ดอกศรีตรัง ที่พวกเรารู้จัก ซี่งดอกไม้จะมีสีน้ำเงินอมม่วง เวลาบานสะพรั่งทั้งสองฝั่งทางเดินริมถนนแล้วสวยงามมาก โดยเทศกาลนี้จะมีขึ้นประมาณกลางเดือนเมษายนของทุกๆ ปี ในคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน📌ใครอยากจะไปเก็บภาพดอกไม้สีม่วงสุดเพ้อฝันนี้ แอดมินมีพิกัดมาแนะนำ 2 จุดค่ะถนนเจี้ยวฉ่างจง 教场中路 Jiaochang Middle Roadตลอดสองข้างทางความยาวประมาณเกือบ 2 กิโลเมตรของถนนเส้นนี้ เต็มไปด้วยหลันฮวาอิ๋งนับร้อยต้นปลูกอยู่เรียงรายกันเป็นทะเลดอกไม้สีม่วงกันเลยทีเดียวพิกัด: Jiao Chang Zhong Lu https://maps.app.goo.gl/TvLrrjinBrfc5vW8A?g_st=icริมฝั่งแม่น้ำผานหลง 盘龙江畔

หากพูดถึง ดอกซากุระ ประเทศแรกที่นึกถึงคงหนีไม่พ้นญี่ปุ่น แต่ความจริงแล้วยังมีจุดชมซากุระสวยๆ ให้ชมอยู่หลายแห่งในเอเชีย ซึ่งจีนก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีดอกซากุระสวยๆ ไม่แพ้ที่ไหน ถ้าใครอยากชมซากุระบานแต่มีงบจำกัด ไม่ต้องไปถึงญี่ปุ่น Nihao China มาแนะนำ 11 จุดชม ซากุระ จีน รับรองว่าท่านจะได้เห็นซากุระบานสะพรั่งทั่วแดนมังกรแบบสบายกระเป๋า แถมยังได้ถ่ายรูปสวยๆ อวดเพื่อนๆลงโซเชียลถ้าอยากรู้แล้วว่าจะมีจุดชมที่ไหนบ้าง? ตามมาดูกันเลย 1. สวนซากุระผิงป้า – เมืองอันชุน มณฑลกุ้ยโจว สวนซากุระที่ใหญ่ที่สุดในโลก สวนซากุระผิงป้า (Pingba Cherry Blossom Garden) ที่มีพื้นที่ครอบคลุมถึงสองเมือง คือ เมืองอันชุน และ เมืองกุ้ยหยาง ในมณฑลกุ้ยโจว หากมองจากมุมสูงเราจะเห็นดอกซากุระบานอยู่ทั่วพื้นที่ราวกับทะเลสีชมพู เพราะที่นี่มีต้นซากุระมากกว่า 7 แสนต้น

Nihao china ขอแนะนำเทศกาลดอกไม้ที่สวยงามและหาชมได้ยาก  นั่นก็คือ เทศกาลดอกโบตั๋น ณ เมือง ลั่วหยาง ประเทศจีน นั่นเองค่ะ เนื่องจากเป็น 1 เทศกาลดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดของจีน งานนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างล้นหลามในทุกๆ ปี โดยระยะเวลาในการจัดงานในปีนี้ คือช่วง วันที่ 1 เมษายน - 5 พฤษภาคม ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดของการชมดอกโบตั๋นจะอยู่ที่ช่วงกลางเดือนเมษายน ค่ะ ในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดอกโบตั๋นนั้นพร้อมใจกันผลิดอกบานสะพรั่งเต็มที่ ทำให้มองไปมุมไหนของสวนก็จะเจอแต่สีสันสดใสทั่วทุ่งเทศกาลดอกโบตั๋น จัดขึ้นที่ Luoyang National Peony Garden ซึ่งภายในสวนนี้ ได้ปลูกต้นโบตั๋นไว้มากกว่า 600 สายพันธ์ ฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่าถ้าเดินทางไปชมดอกโบตั๋นในช่วงที่พีคที่สุด คุณจะได้พบกับความสดใส สวยงาม อย่างสุดลูกหู ลูกตาเลยทีเดียว อัตราค่าเข้าชม :: 40-50 หยวน