ทะเลสาบคานาสือ เป็นทะเลสาบน้ำจืดในเทือกเขาอัลไต ซึ่งอยู่ตอนเหนือสุดของเขตปกครองตัวเองซินเจียงอุยกูร์ ทะเลสาปคานาสืออยู่ระหว่างชายแดนประเทศจีนและประเทศคาซัคสถานค่ะ ซึ่งที่ทะเลสาบคานาสือกินพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2,000 กิโลเมตร สำหรับชื่อของทะเลสาบคานาสสือมาจากคำว่า คานาสในภาษามองโกล แปลว่าทะเลสาบกลางหุบเขา ดังนั้น คานาสือ จึงเป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมาก ถ้าใครชอบเที่ยวสายธรรมชาติ ห้ามพลาดนะคะ
‹ 1. มาพิสูจน์เรื่องเล่าของสัตว์ปริศนา ›
หลายๆ คนคงเคยได้ยินเรื่องเล่าของสัตว์ปริศนาต่างๆไม่ว่าจะเป็นเจ้าตัวล๊อคเนส ที่ทะเลสาบเนสส์ ที่ทะเลสาบคานาสือก็มีเรื่องเล่าของสัตว์ปริศนาด้วยเช่นกันค่ะ โดยชาวบ้านบอกว่าเป็นสัตว์ปริศนาตัวสีแดงๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในทะเลสาปแห่งนี้ ประกอบกับนักวิทยาศาสตร์ได้พบกับโครงกระดูกของสัตว์ต่างๆที่ทะเลสาปแห่งนี้ จึงเกิดเป็นภารกิจในการตามหาเจ้าสัตว์ปริศนาสีแดงในทะเลสาปแห่งนี้ แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็สันนิษฐานว่าเป็นปลาไทแมน ซึ่งเป็นปลาในตระกูลปลาแซลม่อนที่มีขนาดใหญ่ หากพวกมันโตเต็มที่อาจจะมีความยาวถึง 10-15 เมตร
‹ 2. วิวสวยมากกกก ›
ทะเลสาปที่เมืองจีนขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามอยู่แล้วค่ะ แต่ที่ทะเลสาบคานาสือบรรยากาศและความสวยงามจะเปลี่ยนไปตามฤดูเลยนะ และแต่ละจุดก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป สำหรับจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเลยเมื่อมาถึงทะเลสาบคานาสือนั่นก็คือ จุด คุ้งน้ำแสงจันทร์, คุ้งน้ำเทพยาดา, หมู่บ้านถูหว่า, ทะเลสาบขาว, ทะเลสาบดำ
‹ 3. ไปดูทะเลสาปเปลี่ยนสี ›
ใช่แล้ว เราพูดไม่ผิดค่ะ ที่ทะเลสาบคานาสือความเก๋ไก๋สไลด์เดอร์ของเขาก็หากเราไปต่างช่วงเวลา ทะเลสาปจะเปลี่ยนสีไปตามฤดู ถ้าเราไปช่วงเดือน พฤษภาคม ทะเลสาปจะเป็นสีเทาอมเขียว เดือนมิถุนายนทะเลสาปจะเปลี่ยนเป็นสีครามเขียวอ่อน เดือน กรกฎาคมจะกลายเป็นสีครีมอมสีเขียวฟ้า เดือนสิงหาคมจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนในเดือนตุลาคมน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีมรกตสุดสวย
‹ 4. ทะเลสาบที่นี่ใหญ่ที่สุดในเมืองจีนและเต็มไปด้วยร่องรอยอารยธรรม ›
คุณรู้ไหมว่าทะเลสาบคานาสือมีพื้นที่กว่า 43 ตารางกิโลเมตรเลย เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณทะเลสาบคานาสือจะเป็นหนึ่งในเส้นทางสายไหมของประเทศจีนค่ะ เป็นจุดเลี้ยงสัตว์แบบเร่ร่อนตั้งแต่โบราณ และที่สำคัญตรงนี้เป็นจุดเชื่อมต่อกับแผ่นดินไซบีเรียนด้วยทำให้พื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยร่องรอยอารยธรรมมากมาย อีกทั้งแผ่นดินบริเวณนี้อยู่ใกล้กับมองโกลเลียและคาซัคสถาน ทำให้วัฒนธรรม ผู้คน และการใช้ชีวิตมีหลากหลายแบบอีกด้วย
‹ 5. ที่ทะเลสาบคานาสือเป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์พื้นที่ราบสูงไซบีเรียน ›
ด้วยความที่บริเวณทะเลสาปแห่งนี้กว้างถึง 43 ตารากิโลเมตร ทำให้มีสัตว์มากมายอาศัยอยู่ในป่าบริเวณนี้ ที่นี่เลยจะต้องมีศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าขึ้น บริเวณทะเลสาบคานาสือเราสามารถพบกับเจ้าเสือดาวหิมะ หมีน้ำตาล กระต่ายหิมะได้อีกด้วย ความสมบูรณ์ของป่าแห่งนี้ทำให้พบสัตว์มากมายและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์คุ้มครองกว่า 100 ชีวิต นอกจากนี้ยังมีสัตว์บางประเภทที่ใกล้ศูนย์พันธุ์อีกด้วย
สำหรับคนไทยเองอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับทะเลสาบคานาสือเท่าไหร่ แต่ที่นี่เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การลองไปชมดูสักครั้ง ใครที่ชื่นชอบและมีความฝันอยากจะตามรอยเส้นทางสายไหมอยู่แล้วละก็ ต้องห้ามพลาดทริปทะเลสาบคานาสือเลยนะ
ทะเลสาบคานาสือ ดินแดนงดงามดุจนิวซีแลนด์แห่งจีน
ทะเลสาบคานาสือ เป็นทะเลสาบน้ำจืดในเทือกเขาอัลไต ซึ่งอยู่ตอนเหนือสุดของเขตปกครองตัวเองซินเจียงอุยกูร์ ทะเลสาปคานาสืออยู่ระหว่างชายแดนประเทศจีนและประเทศคาซัคสถานค่ะ ซึ่งที่ทะเลสาบคานาสือกินพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2,000 กิโลเมตร สำหรับชื่อของทะเลสาบคานาสสือมาจากคำว่า คานาสในภาษามองโกล แปลว่าทะเลสาบกลางหุบเขา ดังนั้น คานาสือ จึงเป็นที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมาก ถ้าใครชอบเที่ยวสายธรรมชาติ ห้ามพลาดนะคะ
5 เหตุผลที่ต้องไปคานาสือ
‹ 1. มาพิสูจน์เรื่องเล่าของสัตว์ปริศนา ›
หลายๆ คนคงเคยได้ยินเรื่องเล่าของสัตว์ปริศนาต่างๆไม่ว่าจะเป็นเจ้าตัวล๊อคเนส ที่ทะเลสาบเนสส์ ที่ทะเลสาบคานาสือก็มีเรื่องเล่าของสัตว์ปริศนาด้วยเช่นกันค่ะ โดยชาวบ้านบอกว่าเป็นสัตว์ปริศนาตัวสีแดงๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในทะเลสาปแห่งนี้ ประกอบกับนักวิทยาศาสตร์ได้พบกับโครงกระดูกของสัตว์ต่างๆที่ทะเลสาปแห่งนี้ จึงเกิดเป็นภารกิจในการตามหาเจ้าสัตว์ปริศนาสีแดงในทะเลสาปแห่งนี้ แต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็สันนิษฐานว่าเป็นปลาไทแมน ซึ่งเป็นปลาในตระกูลปลาแซลม่อนที่มีขนาดใหญ่ หากพวกมันโตเต็มที่อาจจะมีความยาวถึง 10-15 เมตร
‹ 2. วิวสวยมากกกก ›
ทะเลสาปที่เมืองจีนขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามอยู่แล้วค่ะ แต่ที่ทะเลสาบคานาสือบรรยากาศและความสวยงามจะเปลี่ยนไปตามฤดูเลยนะ และแต่ละจุดก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป สำหรับจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเลยเมื่อมาถึงทะเลสาบคานาสือนั่นก็คือ จุด คุ้งน้ำแสงจันทร์, คุ้งน้ำเทพยาดา, หมู่บ้านถูหว่า, ทะเลสาบขาว, ทะเลสาบดำ
‹ 3. ไปดูทะเลสาปเปลี่ยนสี ›
ใช่แล้ว เราพูดไม่ผิดค่ะ ที่ทะเลสาบคานาสือความเก๋ไก๋สไลด์เดอร์ของเขาก็หากเราไปต่างช่วงเวลา ทะเลสาปจะเปลี่ยนสีไปตามฤดู ถ้าเราไปช่วงเดือน พฤษภาคม ทะเลสาปจะเป็นสีเทาอมเขียว เดือนมิถุนายนทะเลสาปจะเปลี่ยนเป็นสีครามเขียวอ่อน เดือน กรกฎาคมจะกลายเป็นสีครีมอมสีเขียวฟ้า เดือนสิงหาคมจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม ส่วนในเดือนตุลาคมน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นสีมรกตสุดสวย
‹ 4. ทะเลสาบที่นี่ใหญ่ที่สุดในเมืองจีนและเต็มไปด้วยร่องรอยอารยธรรม ›
คุณรู้ไหมว่าทะเลสาบคานาสือมีพื้นที่กว่า 43 ตารางกิโลเมตรเลย เนื่องจากสมัยก่อนบริเวณทะเลสาบคานาสือจะเป็นหนึ่งในเส้นทางสายไหมของประเทศจีนค่ะ เป็นจุดเลี้ยงสัตว์แบบเร่ร่อนตั้งแต่โบราณ และที่สำคัญตรงนี้เป็นจุดเชื่อมต่อกับแผ่นดินไซบีเรียนด้วยทำให้พื้นที่บริเวณนี้เต็มไปด้วยร่องรอยอารยธรรมมากมาย อีกทั้งแผ่นดินบริเวณนี้อยู่ใกล้กับมองโกลเลียและคาซัคสถาน ทำให้วัฒนธรรม ผู้คน และการใช้ชีวิตมีหลากหลายแบบอีกด้วย
‹ 5. ที่ทะเลสาบคานาสือเป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์พื้นที่ราบสูงไซบีเรียน ›
ด้วยความที่บริเวณทะเลสาปแห่งนี้กว้างถึง 43 ตารากิโลเมตร ทำให้มีสัตว์มากมายอาศัยอยู่ในป่าบริเวณนี้ ที่นี่เลยจะต้องมีศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าขึ้น บริเวณทะเลสาบคานาสือเราสามารถพบกับเจ้าเสือดาวหิมะ หมีน้ำตาล กระต่ายหิมะได้อีกด้วย ความสมบูรณ์ของป่าแห่งนี้ทำให้พบสัตว์มากมายและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์คุ้มครองกว่า 100 ชีวิต นอกจากนี้ยังมีสัตว์บางประเภทที่ใกล้ศูนย์พันธุ์อีกด้วย
สำหรับคนไทยเองอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับทะเลสาบคานาสือเท่าไหร่ แต่ที่นี่เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การลองไปชมดูสักครั้ง ใครที่ชื่นชอบและมีความฝันอยากจะตามรอยเส้นทางสายไหมอยู่แล้วละก็ ต้องห้ามพลาดทริปทะเลสาบคานาสือเลยนะ
Recent Posts
Recent Comments
Categories